Mercari ปรับปรุงประสิทธิภาพการพัฒนา UI ได้ 56% ด้วย Jetpack Compose

Mercari ช่วยให้ผู้คนนับล้านเลือกซื้อและขายสินค้าได้เกือบทุกอย่าง บริษัทก่อตั้งขึ้นในปี 2013 ในญี่ปุ่น และปัจจุบันเป็นตลาดกลาง C2C ที่เน้นสมาร์ทโฟนที่ใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่น ทีมสถาปนิกไคลเอ็นต์ของ Mercari เริ่มใช้ Jetpack Compose ในปี 2020 โดยมีเป้าหมายที่จะใช้โซลูชันและเทคโนโลยีที่ทันสมัยซึ่งปรับขนาดได้ในระยะยาวเพื่อสร้างกลุ่มเทคโนโลยีสำหรับแอปพลิเคชันใหม่ๆ

สิ่งที่พวกเขาทำ

ทีม Mercari ต้องการใช้ระบบการออกแบบที่มีการจัดการสถานะและการจัดรูปแบบที่ซับซ้อนใน Android Views ซึ่งเป็นงานที่ซับซ้อนมาก การใช้ Jetpack Compose ไม่เพียงช่วยให้ทีมสามารถติดตั้งใช้งานระบบที่ซับซ้อนนี้ได้ แต่ยังช่วยให้ใช้เวลาในการพัฒนาแต่ละหน้าจอน้อยลงด้วย

นอกจากนี้ Jetpack Compose ยังช่วยให้ทีมเขียนโค้ด UI สำหรับแอปใหม่โดยใช้ระบบการออกแบบ ทำให้โค้ด UI กระชับและเข้าใจง่าย ด้วยเหตุนี้ ทีมจึงมีเวลามากขึ้นในการเขียนหน้าจอและตรรกะทางธุรกิจ เช่น การรองรับธีมสีเข้มในทางปฏิบัติ

นอกจากนี้ ทีม Mercari ยังเขียนเครื่องมือพิสูจน์แนวคิดสำหรับการผสานรวม Figma กับระบบการออกแบบ ซึ่งจะสร้างโค้ด UI จากการออกแบบคอมโพเนนต์โดยอัตโนมัติ ทีมงานกล่าวว่าการพัฒนาเครื่องมือนี้ด้วย Compose นั้นง่ายกว่าเนื่องจากลักษณะการประกาศ

"เมื่อนักพัฒนาแอป Android คุ้นเคยกับการเขียนโค้ด Jetpack Compose แล้ว ก็คงไม่อยากกลับไปใช้แบบเดิม" - Anthony Allan Conda, Android Tech Lead ที่ Mercari

ผลลัพธ์

Mercari ใช้โค้ดน้อยลงมากในการเขียนหน้าจอด้วย Jetpack Compose และระบบการออกแบบใหม่ ในหน้าจอที่มีเนื้อหาที่เลื่อนได้ไม่สิ้นสุด ซึ่งเป็นกรณีการใช้งานทั่วไป นักพัฒนาแอปได้ลดโค้ดลงประมาณ 56% ด้วยเหตุนี้ นักพัฒนาจึงเขียนหน้าจอได้มากขึ้นในเวลาเท่าเดิม ทำให้มีเวลามากขึ้นในการเขียนตรรกะทางธุรกิจและส่วนอื่นๆ ของโค้ด

นอกจากนี้ ยังทำสิ่งต่างๆ ได้มากขึ้นด้วย UI เอง เช่น การใส่ภาพเคลื่อนไหวและการใช้ API ที่ใช้งานง่าย เช่น AnimatedVisibility, Crossfade และ Animatable

Mercari วางแผนที่จะใช้ Jetpack Compose ในแอปพลิเคชันใหม่ต่อไปจนกว่าจะเปิดตัว ระบบการออกแบบของแอปซึ่งมี Android SDK ที่เขียนด้วย Jetpack Compose ยังออกแบบมาให้ทำงานร่วมกับแอปพลิเคชันหลายรายการภายใน Mercari ได้ด้วย

เริ่มต้นใช้งาน

ดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Jetpack Compose