หน้านี้จะอธิบายวิธีดาวน์โหลด นำเข้า และกำหนดค่าปลั๊กอิน Unity สำหรับ Android Performance Tuner
ข้อกำหนด
หากต้องการใช้ปลั๊กอินในเกม ให้ใช้ Unity เวอร์ชันที่รองรับ
- Unity เวอร์ชัน 2017.4 ขึ้นไปและ .NET เวอร์ชัน 4.6
- ต้องใช้ Unity 2018.2 เพื่อใช้ไฟล์เสริมของ APK
- ต้องใช้ Unity เวอร์ชัน 2019.3.14 ขึ้นไปเพื่อปรับปรุงการเว้นระยะเฟรมและการวัด GPU
- หากต้องการรองรับฉากที่ใช้ Addressables คุณต้องใช้ Unity 2019.3 ขึ้นไปและแพ็กเกจ Addressables 1.19.4 ขึ้นไป
ดาวน์โหลดปลั๊กอิน
ดาวน์โหลดปลั๊กอินจากที่เก็บ GitHub เลือก.unitypackage
ดาวน์โหลดไฟล์
นำเข้าปลั๊กอิน
ก่อนนำเข้าปลั๊กอิน โปรดตรวจสอบว่าโปรเจ็กต์ใช้ .NET เวอร์ชัน 4.6 ซึ่งมีผลกับ Unity เวอร์ชัน 2018.4 และก่อนหน้า (Unity เวอร์ชันที่ใหม่กว่าจะมี .NET เวอร์ชัน 4.6 เท่านั้น)
- เลือกไฟล์ > การตั้งค่าการสร้าง ตรวจสอบว่าได้เลือก Android เป็น แพลตฟอร์มปัจจุบันแล้ว
- คลิกปุ่มการตั้งค่าเพลเยอร์
- ในส่วนการตั้งค่าอื่นๆ ให้ค้นหาเวอร์ชันรันไทม์ของสคริปต์ แล้วเลือก .NET 4.6
ปลั๊กอินนี้มีให้ใช้งานเป็นแพ็กเกจ Unity ที่คุณนำเข้าไปยังโปรเจ็กต์ได้
เลือกชิ้นงาน > นำเข้าแพ็กเกจ > แพ็กเกจที่กำหนดเอง แล้วเลือกไฟล์
.unitypackage
ที่คุณดาวน์โหลด
Android Performance Tuner เวอร์ชัน 1.5.1 ขึ้นไปที่ใช้ Unity 2017
การใช้ Android Performance Tuner เวอร์ชัน 1.5.1 ขึ้นไปกับ Unity 2017 ต้องทำตามขั้นตอนเพิ่มเติมต่อไปนี้เมื่อนำเข้าปลั๊กอิน
- ไปที่โฟลเดอร์ Assets/AndroidPerformanceTuner/Editor
- คลิกไฟล์ Google.Android.PerformanceTuner.Editor เพื่อเปิดในเครื่องมือตรวจสอบ
- คลิกการอ้างอิงแอสเซมบลีที่ขาดหายไป แล้วคลิก - เพื่อนำออก
คลิกปุ่มใช้
รูปที่ 1 ไม่มีการอ้างอิงการประกอบ
ไปที่โฟลเดอร์ Assets/AndroidPerformanceTuner/Runtime
คลิกไฟล์ Google.Android.PerformanceTuner เพื่อเปิดใน Inspector
ทำขั้นตอนที่ 3 ซ้ำเพื่อนำการอ้างอิงแอสเซมบลีที่ขาดหายไป 2 รายการออก
รีสตาร์ท Unity
ไปที่ Window > AndroidPerformanceTuner > Setup แล้วตรวจสอบว่าไม่มีข้อผิดพลาด แสดงอยู่
การนำเข้าปลั๊กอินอีกครั้งหลังจากลบ
หากนำเข้าปลั๊กอินอีกครั้งหลังจากนำออกจากโปรเจ็กต์ ให้นำ
ANDROID_PERFORMANCE_TUNER_UTILITIES
ออกจาก
การตั้งค่าเพลเยอร์ > สัญลักษณ์การกำหนดสคริปต์ก่อน
กำหนดค่าปลั๊กอิน
หากต้องการกำหนดค่าปลั๊กอิน ให้ทำดังนี้
สำหรับ Unity เวอร์ชัน 2019.3.14 ขึ้นไป
เปิดใช้ไลบรารีการเว้นวรรคเฟรมของ Android Android Performance Tuner จะใช้ ไลบรารีนี้เพื่อวัดประสิทธิภาพของเกม รวมถึงการวัด เชิงลึกมากกว่าที่ Unity รายงานเพียงอย่างเดียว
เลือกไฟล์ > การตั้งค่าการสร้าง แล้วคลิกปุ่มการตั้งค่าเพลเยอร์ ในส่วนความละเอียดและการนำเสนอ ให้เลือกช่องทำเครื่องหมายการกำหนดอัตราเฟรมที่เพิ่มประสิทธิภาพ
ซิงโครไนซ์การแสดงผลเฟรมกับช่วงว่างแนวตั้ง
จากการตั้งค่าเพลเยอร์ ให้เลือกแท็บคุณภาพ แล้วหาเมนูจำนวน VSync ใช้ตัวเลือกใดก็ได้ (ยกเว้นไม่ต้องซิงค์) การเลือกอื่นๆ นอกเหนือจากไม่ซิงค์จะช่วยให้วัดผลได้แม่นยำยิ่งขึ้น เมื่อใช้ร่วมกับไลบรารีการเว้นวรรคเฟรมของ Android
(สำหรับ Unity เวอร์ชันก่อนปี 2019) ตั้งค่าระบบบิลด์เป็น Gradle เลือก File > Build Settings ค้นหาระบบบิลด์ แล้วเลือก Gradle
เพิ่มสิทธิ์การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต ในส่วนการตั้งค่าอื่นๆ ให้ค้นหา การเข้าถึงอินเทอร์เน็ต แล้วเลือกต้องใช้
ป้อนคีย์ API เมื่อติดตั้งปลั๊กอินแล้ว คุณจะเข้าถึงปลั๊กอินได้จากเมนู หน้าต่าง > Android Performance Tuner > การตั้งค่า ในกล่องโต้ตอบนี้ ให้เลือกแท็บการตั้งค่า แล้วป้อนคีย์ API จากโปรเจ็กต์ Google Cloud ลงในช่องคีย์ API
รูปที่ 2 แท็บการตั้งค่าในปลั๊กอิน